เป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ว่าการสักคิ้วในปัจจุบันนั้นเป็นที่แพร่หลายอย่างมากด้วย ความสะดวก ที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องตกแต่งคิ้วมาก ถือเป็นข้อดีอันดับหนึ่งสำหรับการสักคิ้วทีเดียว รวมไปถึงการพัฒนาของเทคนิค สี หรือแม้แต่ตัวอุปกรณ์สักเองที่ทำให้การสักคิ้วในปัจจุบันนั้นพัฒนามาไกลกว่าการสักคิ้วแบบในสมัยก่ออย่างมากด้วยเทคนิคสมัยใหม่และอุปกรณ์ที่ทำให้งานสักคิ้วในปัจจุบันมีความเป็นธรรมชาติสูงเสียจนหากไม่มากแหวกขนคิ้วดูดีๆก็แทบแยกไม่ออกว่าอันนั้นขนคิ้วจริงอันไหนขนคิ้วจากเส้นสัก และเพราะแบบนั้น นั้นจึงเป็นเหตุผลหลักๆที่ทำให้หนุ่มในปัจจุบันตัดสินใจมาสักคิ้วกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องคุณผู้ชายควรรู้ก่อนตัดสินใจสักคิ้วกันค่ะ
การสักคิ้วนั้นไม่ได้มีแต่สักคิ้วผู้หญิงอีกแล้ว
ทราบหรือไม่คะ ว่าการสักคิ้วนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สักคิ้วสำหรับผู้หญิงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะเทคนิคการสักคิ้วในปัจจุบันนั้นถูกพัฒนาให้สามารถสักได้ไกล้เคียงกับธรรมชาติได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งด้วยเรื่องของการสร้างเส้นจากตัวอุปกรณ์หรือแม้กระทั่งการสร้างสรรค์ให้มีค่าน้ำหนักที่ใกล้เคียงกับขนคิ้วจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นจึงทำให้ ผลลัพธ์หลังลอกที่ได้ดูมีความเป็นธรรมชาติอย่างมากค่ะ และเพราะแบบนั้นการสักคิ้วจึงเปิดตลาดไปถึงในรูปแบบของการสักคิ้วให้คุณผู้ชายเพื่อเสริมบุคลิกภาพได้ด้วย นั้นจึงทำให้หนุ่มๆสมัยนี้เริ่มมีความสนใจในการสักคิ้วมากกว่าแต่ก่อน อีกทั้งยังมีช่างสักคิ้วที่รับแค่สักคิ้วผู้ชายโดยเฉพาะอีกด้วยค่ะ
การสักคิ้วในผู้ชายมีสองเทคนิคใหญ่ๆ
ในการสักคิ้วผู้ชายนั้นเนื่องด้วยผลลัพธ์หลังลอกที่ได้จะมีความแตกต่างกับการสักของคิ้วผู้หญิงค่ะ ในคิ้วของผู้ชายหัวใจหลักที่ทำให้ต่างออกจากการสักแบบผู้หญิงนั้นก็คือ คิ้วผู้ชายจะไม่ได้ต้องการความชัดเจนเป็นทรงเท่าคิ้วผู้หญิงมากนัก สิ่งที่เน้นไปคือความเป็นธรรมชาติมากกว่า การสักคิ้วของฝั่งผู้หญิงที่จะเน้นความเป็นเชฟให้ชัดเจน เพราะฉะนั้นแล้วคิ้วของผู้ชายจะมีเพียงสองประเภทเท่านั้นคือการสักแบบ microblading และ hairstroke (สำหรับคุณผู้ชายที่สงสัยว่าทั้งสองอย่างคืนอะไรเรามีบทความที่เขียนถึงไว้ด้วยสามารถจิ้มลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ https://www.crowneyebrow.com/post/การสักแบบ-microblading-กับ-การสักแบบ-hairstroke-ต่างกันยังไง ) โดยสองเทคนิคนี้จะมีความเน้นธรรมชาติทั้งคู่ แต่จะมีความต่างในเรื่องของอุปกรณ์และวิธีการสร้างสรรค์ลายเส้นเลียนแบบที่ต่างกันค่ะ
งานธรรมชาติชนิดที่ดูแทบไม่ออกว่าไปสักมา
อย่างเราพูดกันอยู่บ่อยๆงานสักคิ้วสมัยนี้นั้นแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่มีอีกแล้วคิ้วเส้นเดียวที่จะเฟดเขียวหรือแดงในภายหลังแต่จะเป็นการสร้างสรรลายเส้นโดยเลียนแบบขนคิ้วเดิมให้มากที่สุด โดยใช้วิธีการสร้างเพื่อแก้ที่จุดเริ่มต้นของปัญหาโดยการสร้างลายเส้นเพื่อแก้ไขปัญหาคิ้วไม่เต็มทรง ขนคิ้วบาง แทนที่จะเป็นการสร้างเส้นคิ้วที่ไม่เป็นธรรมชาติ และเพราะแบบนั้นจึงทำให้งานออกมาเป็นธรรมชาติชนิดที่ว่าหากไม่บอกหรือไม่สังเกตุดูให้ดีๆก็ดูแทบไม่ออกค่ะว่าไปสักคิ้วมา
มีช่วงที่คิ้วต้องลอก
แน่นอนการสักทุกประเภทมีการลอกของผิวหนังเสมอเป็นการผลัดเซลล์ของผิวหนังซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติของการสักค่ะ แน่นอนว่าคิ้วเองก็มีช่วงที่ลอกเช่นกัน ในช่วงนั้นแน่นอนว่าคิ้วอาจจะดูแหว่งบ้างเป็นเรื่องปกติค่ะ หากไม่สังเกตุก็ดูไม่ออก และเมื่อผ่านช่วงที่คิ้วออกไป สีจะค่อยดันขึ้นมาทีหลัง โดยกระบวนการลอกที่พูดมานี้จะกินเวลาอยู่ที่ 1 เดือนเพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่ค่ะ สุดท้ายแล้วคิ้วที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติ และกลืนไปกับเส้นขนแทบจะ 100 เปอร์เซ็นทีเดียว
การดูแลหลังรับการสักคิ้วไป
ในขั้นตอนเบื้องต้นในช่วงแรกต้องทำความสะอาดคิ้วด้วยน้ำเกลือ และ ทายาสำหรับช่วยบำรุงผิวในช่วงแรก โดยระยะเวลาจะอยู่ที่ 7 วันสำหรับการทายา และสามวันสำหรับการเช็คนำ้เกลือ การดูหลักๆมีไม่กี่ข้อ หากคุณเลือกการสักแบบ microblading ข้อสำคัญเลยก็คือคิ้วของคุณห้ามโดนน้ำ 7 วันค่ะอาจจะสงสัยแล้วจะทำความสะอาดหน้ายังไงใช่ไหมคะ คุณสามารถล้างหน้าได้ปกติตั้งแต่ช่วงใต้ตาลงมา แล้วใช่ทิชชู่เปียก หรือ ฟองน้ำทำความสะอาดหน้าผากไปก่อนค่ะ แต่หากคุณเลือกการสักแบบ hair stroke เนื่องจากเป็นการสักแบบแผลปิดจึงทำให้สามารถโดนน้ำได้ตั้งแต่วันแรกที่สักค่ะ แต่ยังเว้นการถูคิ้วอยู่นะคะ เนื่องจากอาจจะทำให้สีมีปัญหาได้ แน่นอนว่าการสักแบบ hair stroke นั้นดูเหมือนจะดูแลง่ายกว่าแต่การสักแบบนี้นั้นจะกินเวลาและต้องการทักษะของช่างสักสูงกว่านั้นจึงทำให้การสักประเภทนี้ นั้นราคาแพงกว่าค่ะ และอีกข้อที่สำคัญเลยคือห้ามแกะห้ามเกาคิ้วเด็ดขาด และหากต้องการตกแต่งคิ้วเพื่อเติมหรือลงสีฝุ่นเพิ่มต้องรอให้คิ้วลอกแล้วเท่านันค่ะ
การสักคิ้วเจ็บไหม
แน่นอนโดยพื้นฐานแล้วการสักคิ้วก็คือการสัก และการสักก็คือการใช้เข็มขนาดเล็กเป็นตัวนำสีลงไปฝังที่ผิวหนังของผู้สัก หากพูดตามความจริงแล้วย่อมต้องเกิดความเจ็บต่อผิวหนังของผู้ถูกสักแน่นอนเป็นเรื่องปกติ แต่เพราะในปัจจุบันร้านสักหลายๆร้านก็มีบริการยาชาไว้ให้แล้วค่ะ และยาชาในปัจจุบันก็ออกฤทธิ์ชนิดที่ว่าแทบจะทำให้ผิวหนังไม่มีความรู้สึกในระยะเวลาสั้นๆได้แล้ว ยิ่งพรีเมียมมากพอ ยิ่งแทบจะไม่มีความรู้สึกเลยตอนระหว่างสักอยู่ ความรู้สึกเดียวทีใกล้เคียงที่สุดคือเป็นความรู้สึกตอนกำลังกันคิ้วอยู่เท่านั้นค่ะ อาจจะมีเสียงของอุปกรณ์สักที่ดูน่ากลัวอยู่บ้างแต่โดยรวมแล้วก็ยังคงไม่มีความรู้สึกเจ็บแม้แต่น้อยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสามารถบทความเกี่ยวกับการสักคิ้วของผู้ชายในวันนี้หวังว่าจะมีประโยชน์การตัดสินใจของหนุ่มๆที่กำลังมีแพลนหรือไอเดียจะสักคิ้วไม่มากก็น้อยนะคะ และหากหนุ่มๆคนไหนกำลังมองหาสถาบันสักคิ้วที่เน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติเป็นพิเศษและ มีประสบการณ์ด้านการสักร่วม 8 ปี การันตีผ่านการสักมาแล้วมาไม่ต่ำกว่า 6000 เคสทางเราก็อยากจะขอฝากสถาบันสักคิ้วชั้นนำของอาจารย์ออย เจ้าของสถาบันไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยค่ะ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานนั้นทำให้หนุ่มมั่นใจได้เลยนะคะ ว่าจะสามารถได้รับคิ้วที่เสริมบุคลิคได้ดี และยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างดีไว้ได้ด้วย หากสนใจอยากสอบถามรายละเอียดสามารถแอดไลน์ของทางร้านไว้ได้ค่ะ สามารถแอดไปที่ไลน์ 𝙻𝚒𝚗𝚎:@𝚌𝚛𝚘𝚠𝚗𝟿𝟿 หรือ คลิ๊ก@ line https://lin.ee/chW8khZ มาเพื่อสอบถามรายละเอียด และซักถามข้อสงสัยได้ค่ะ จะมีแอดมินสาวคอยตอบข้อซักถามของลูกค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ค่ะ
Comments